oh! น่ารักจัง

น้องๆ เค้าเก่งจัง

ดาวมหาลัย

โค้ดเมาส์แต่งhi5 มากมาย กดที่นี่เลย

แก่ดาวมหาลัยทุกคน

ช็อกโกแลตบอกนิสัย


ช็อคโกแลตมิ้นท์
เป็นคนที่มองไปข้างหน้าอยู่เสมอ ไม่ชอบเก็บเอาอดีตมาใส่ใจ ไม่มีกฏระเบียบอันใดที่จะหยุดคุณได้ยกเว้นคุณจะเป็นคนสร้างกฏนั้นเสียเอง เป็นคนชัดเจนและเปิดเผย ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และพยายามมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ข้อเสีย บางครั้งก็มุ่งมั่นมากเกินไป ควรจะปล่อยวางบ้าง

ช็อคโกแลตนม
เป็นคนโรแมนติก และแสนจะอบอุ่นคนหนึ่งเชียวล่ะ ตัดสินใจรวดเร็ว คุยสนุกและยิ่งไปกว่านั้นคุณชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอในยามที่พวกเขาต้องการ ข้อเสีย ด้วยความที่คุณมักจะเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจของคนอื่นๆ อยู่เสมอ อาจจะทำให้คนคิดว่าคุณชอบทำตัวเด่นเกินไป และในบางเวลาคุณควรหันมาใส่ใจตัวเองให้มาก ค่อยช่วยเหลือคนอื่น

ช็อคโกแลตสอดไส้
เป็นสาว/หนุ่มสังคมตัวยง มีงานปาร์ตี้ที่ไหนคุณก็ไม่เคยพลาด คุณเป็นคนชอบให้มีคนอยู่รอบข้างเสมอ และที่สำคัญคุณเป็นคนใจบุญ ข้อเสีย คุณเบื่อง่าย และมักจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนอื่นแบบง่ายๆไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม

ช็อคโกแลตเวเฟอร์
เป็นคนรักสนุก มีอารมณ์ขัน ช่างพูดช่างคุย ทำให้คนรอบข้างคุณมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ คุณมักจะชอบเล่าเรื่องตลก หรือมีกลเม็ดเด็ดพรายคอยทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอ และใครที่ได้เป็นเพื่อนจะเป็นคนที่โชคดีมากเพราะคุณคือเพื่อนแท้แห่งชีวิตทีเดียว

ช็อคโกแลตขม
เป็นคนไม่ชอบการรอคอยอะไรที่นานๆ และมักจะตกหลุมรักง่าย เป็นคนใจร้อน แต่ในขณะเดียวกันคุณก็เป็นคนช่างคิด ข้อเสีย เป็นคนที่ขาดความอดทน คุณเหมือนเป็นคนที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเองกลับไม่ได้อะไรเลย

Titanic 2



ไททานิค 2

เป็นข่าวที่โด่งดังมาได้พักนึงแล้ว กับเรื่องราวของJACKในไททานิคภาค2 ซึ่งหลังจากภาคแรกทุกคนเชื่อว่าแจ็คได้จบชีวิตไปในมหาสมุทรแอตแลนติกแล้ว แต่ว่าในการสำรวจซากไททานิคครั้งที่สองนั้นเหล่านักสำรวจก็ต้องตกตะลึงได้พบกับ ร่างของแจ็คที่หลับไหลอยู่ในในก้อนน้ำแข็งและสามารถชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้! แจ็คจะทำอย่างไรเมื่อพบว่าตนอยู่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาจะตามหาคนรักที่หายไปได้หรือไม่ ติดตามได้ใน Titanic two the surface โดย Derek Johnson ผู้สานต่อตำนานอันยิ่งใหญ่จากเจม คาเมรอน ซึ่งปล่อยTrailerตัวแรกออกมาให้ชมกันแล้วและได้ข่าวว่าภาคนี้ทุนสร้างกว่าหมื่นล้านเหรียญ นำแสดงโดยลีโอนาโด

ความทรงจำกับไททานิค

ความทรงจำกับ " TITANIC ''

ไททานิก ได้เข้าฉายในประเทศไทย ในวันแรกคือวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2540 (แต่ทุกโรงได้ฉายก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน คือวันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เว้นแต่ในโรงเครืออีจีวีที่ฉายตามกำหนดเดิม) โดยไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย และเมื่อฉายแล้วก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ขึ้นในสังคม จนเป็นคำที่พูดติดปากกันว่า " แจ๊คกับโรส " และโดยเฉพาะในหมู่เด็กสาว ๆ ที่คลั่งไคล้ดารานำชาย คือ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เหมือนกับหลายประเทศที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย โดยสื่อต่าง ๆ และสังคมมีการนำเสนอแง่มุมหรือเรื่องราวต่าง ๆ ของดารานำชายผู้นี้อย่างกว้างขวาง

เพลง My Heart Will Go On เพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งประพันธ์โดยวิลล์ เจนนิ่ง อำนวยเพลงโดย เจมส์ ฮอร์เนอร์ และวอลเตอร์ เอฟฟานาซีฟ ขับร้องโดย เซลีน ดิออน ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สถานีวิทยุพากันเปิดเพลงนี้ทุกวัน นานนับเดือน ความคลั่งไคล้ในเพลงนี้ยังส่งผลไปถึงเวอร์ชั่นอื่นๆ ของเพลงนี้ ทั้งฉบับบรรเลงโดย เคนนี จี หรือฉบับนักร้องชาวไทย จนมีผู้แปลงคำร้องเพลงนี้เป็นภาษาไทย บันทึกเสียงจำหน่าย

หากเพื่อนยังคิดถึงเรื่องไททานิคก็กลับไปหามาดูได้นะค่ะ

ครอบครัวหรรษา





ครอบครัวเราผ่าฟันอุปสรรคมาได้ทุกวันนี้เพราะ" กำลังใจ ความรัก ความผูกพันธ์ "

สังคมเราจะดีได้เริ่มจากที่ครอบครัว หันหน้าคุยกันนะค่ะ เราจะมีความสุขขึ้น

กลิ่นมะนาวช่วยคลายเครียด


อโรมาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นศาสตร์ของการใช้ "กลิ่นระเหย" มาช่วยดูแลสุขภาพ ในรูปของน้ำมันระเหยที่สกัดออกมาอย่างเข้มข้น ใช้ได้ทั้งเพื่อความงาม ในรูปของเครื่องสำอาง ใช้เพื่อสุขภาพ และใช้เพื่อพิธีกรรม โดยเฉพาะเพื่อความงาม ใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ผิว การขับสารพิษ การระงับเชื้อ ฯลฯ
เราสามารถใช้เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ ซ่อมแซมรอยแผล แต้มสิว บำรุงผม หรือการลดริ้วรอยความเหี่ยวย่น โดยใช้ในรูปแบบของโลชั่น น้ำมันนวด สบู่อาบน้ำ หรือแชมพู การใช้เพื่อสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติของการคลายกล้ามเนื้อ ลดความเจ็บปวด การฆ่าเชื้อ ฯลฯ เราสามารถนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ลดอาการหรือช่วยบำรุงสุขภาพเราได้ ทั้งทางกายและทางใจ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากความเครียด ซึ่งยาเคมีสังเคราะห์มีผลข้างเคียงสูง ขณะที่น้ำมันหอมระเหยเป็นสารธรรมชาติ มีการตกค้างและผลข้างเคียงที่น้อยกว่าหรือไม่มีเลย ทำและใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาลทีเดียว ยิ่ง "มะนาว" นักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ศึกษาแล้วพบว่า กลิ่นของมะนาว โดยเฉพาะจากเปลือก ช่วยลดความเครียดได้ เป็นการใช้กลิ่นหอมทดแทนการใช้ยา น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวนี้ มีฤทธิ์ต่อระบบต่างๆ ผ่านทางผิวหนัง ช่วยระงับเชื้อจากบาดแผล แมลงกัดต่อย ฯลฯ รวมถึงกลิ่นมะนาวยังช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย

วิธีพัฒนาตนเอง


1. การควบคุมตน
การควบคุมตน [Self-control] เป็นเทคนิควิธีการพัฒนาตนอย่างหนึ่ง เป็นการควบคุมภายใน สำหรับการควบคุมตนมีผู้ให้ความหมายไว้ว่า หมายถึง พฤติกรรมที่บุคคลกระทำเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ โดยสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตนเองพิจารณาตัดสินใจเลือกด้วยตนเอง หรือ การควบคุมตน คือ กระบวนการที่บุคคล ใช้วิธีการหนึ่งวิธีการใด หรือ หลายวิธีรวมกัน เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง จากพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ไปสู่พฤติกรรมที่พึงประสงค์ โดยที่บุคคลนั้นเป็นผู้กำหนดพฤติกรรมเป้าหมาย และกระบวนการที่นำไปสู่เป้าหมายนั้นด้วยตนเอง การควบคุมตนเองเป็นทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้
ขั้นตอนการพัฒนาตนโดยวิธีการควบคุมตนเอง ในการควบคุมตนเอง มีขั้นตอนในการพัฒนาตน ดังนี้
กำหนดพฤติกรรมเป้าหมายด้วยตนเองเริ่มต้นด้วยบุคคลจะต้องกำหนดพฤติกรรมเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขด้วยตนเองให้ชัดเจน
สังเกตและบันทึกพฤติกรรมของตน การสังเกตและบันทึกพฤติกรรม จะต้องกระทำด้วยตนเอง และบันทึกเป็นระยะ ๆ
กำหนดเงื่อนไขการเสริมแรง หรือการลงโทษตนเอง เป็นการกำหนดเงื่อนไขในการที่จะได้รับการเสริมแรง หรือการลงโทษ หลังจากที่ได้ทำพฤติกรรมเป้าหมาย การกำหนดเงื่อนไขของการเสริมแรง หรือการลงโทษนี้ ควรกระทำด้วยตนเอง เพราะสอดคล้องกับความต้องการของตน อันจะนำไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิผล
เลือกเทคนิคด้วยตนเอง การเลือกเทคนิคด้วยตนเอง จะช่วยให้สามารถเลือกเทคนิคเพื่อควบคุมพฤติกรรมได้เหมาะสมกับตน
ใช้เทคนิคการควบคุมตนเอง ตามวิธีการและขั้นตอนของเทคนิคที่นำมาใช้
ประเมินตนเอง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป้าหมาย ว่าเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไข และข้อกำหนดหรือไม่
เสริมแรง หรือ การลงโทษตนเอง หลังจากประเมินพฤติกรรมเป้าหมายตามข้อ 1.1.5แล้วการจะได้รับการเสริมแรงหรือลงโทษนั้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป้าหมาย ว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้ง ไว้ หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็เสริมปรงด้วยการให้รางวัล แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเกณฑ์ควรมีการลงโทษเช่นกัน
การดำเนินการเพื่อการควบคุมตน เพื่อให้การควบคุมตน บรรลุเป้าหมายและเกิดประสิทธิผล การดำเนินการเพื่อการควบคุมตน มีวิธีดำเนินการดังนี้
กำหนดเป้าหมาย (Set a goal) การควบคุมตนจะสำเร็จได้ด้วยดี จะต้องเริ่มด้วยการกำหนดเป้าหมายสำหรับตน เป้าหมายปกติจะกำหนดเป็นพฤติกรรมเป้า (target behavior)
ระบุพฤติกรรมเป้า (Defining your target behavior) การควบคุมตน มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกำหนดพฤติกรรมเป้า ในรูปของเป้าเชิงพฤติกรรม เช่น “เลิกบุหรี่” ในการกำหนดพฤติกรรมเป้าควรมีลักษณะเป็นบวก ถ้าต้องการจะลดน้ำหนักลง อ่าเขียนว่า “เพื่อไม่ให้อ้วน” ซึ่งมีลักษณะเป็นลบ แต่ควรเขียนว่า”เพื่อให้ผอมลง” ซึ่งมีลักษณะเป็นบวก คือ เน้นสิ่งที่ท่านต้องการจะเป็น ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเป็นอยู่
เลือกเป้าหมายที่บรรลุได้ (Selecting and attainable goal) พฤติกรรมเป้าจะต้องบรรลุได้ ความผิดพลาดของการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น ก็คือการเลือกเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้หรือสูงเกินไป
บันทึกพฤติกรรม (Recording your behavior) ครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมาย จำเป็นจะต้องสังเกตพฤติกรรมในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานในการประเมินความก้าวหน้าและเพื่อการเปรียบเทียบต่อไป วิธีการบันทึกให้ใช้วิธีการที่ปฏิบัติได้ไม่ยาก และสามารถเคลื่อนที่ได้ (Portable) ปกติควรบันทึกอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง แต่ไม่ควรนานกว่า 3-4 สัปดาห์ ต่อครั้ง
การทำสัญญากับตน (Marking a self-contract) เพื่อให้ได้ข้อตกลงกับตัวเองที่ชัดเจน เกี่ยวกับสิ่งที่จะต้องทำให้เสร็จ วิธีที่ดีที่สุด คือ การทำสัญญากับตนเอง สัญญาดังกล่าวจะต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ยุติธรรม และมีข้อความในเชิงบวก
การเสริมแรงตน(Self-reinforcing) ในอุดมคติ การเสริมแรงที่ดีที่สุดก็คือ การเสริมแรงทันทีที่มีพฤติกรรมตามเป้าหมาย
2. การทำสัญญากับตน
การทำสัญญากับตน (Self-contract) เป็นเครื่องมือที่มีพลังต่อการก้าวไปสู่ความสำเร็จการทำสัญญากับตนเป็นข้อตกลงที่เขียนเป็นลายลักษณ์ที่ทำกับตนเอง ระบุขั้นตอนที่ดำเนินการและเมื่อบรรลุเป้าหมายจะให้อะไรกับตนเอง การทำสัญญากับตน ก็เหมือนกับการทำสัญญาอื่นๆ คือ จะต้องมีข้อความที่ระบุในสัญญาว่าจะให้เวลาเท่าไร ซึ่งอาจให้เวลา 2-3 นาที เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี การเขียนสัญญาควรเขียนเฉพาะสิ่งที่รู้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อบรรลุตามสัญญา ก็เปลี่ยนไปสู่พฤติกรรมเป้าหมายขั้นต่อไป ซึ่งในสัญญาควรประกอบด้วย
มีเป้าหมายของพฤติกรรมที่ต้องการบรรลุ โดยมีกำหนดเวลาที่แน่นอน
สิ่งเสริมแรงที่จะใช้ รวมทั้งกำหนดเวลาที่จะใช้ในการเสริมแรงนั้น
รางวัลเพิ่มเติมเมื่อทำงานขั้นต่ำได้สำเร็จ
บทลงโทษถ้าทำตามสัญญาไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด
วิธีการเก็บบันทึกพฤติกรรมของตน
พยานซึ่งเป็นคนอื่นที่ช่วยเหลือตนอย่างน้อย 2 คน
สำหรับหัวข้อในสัญญาควรประกอบด้วย หัวข้อต่อไปนี้
เป้าหมาย (Goal)
ข้อตกลงกับตน(Self-agreement)
สิ่งเสริมแรง (Reinforcers)
การให้รางวัล(Bonus clause)
บทลงโทษ (Panalty clause)
การบันทึก(Records)
การทำสัญญากับตน หากนำไปใช้ควบคู่กับวิธีการหรือเทคนิคการพัฒนาตนอื่นๆ จะช่วยให้วิธีการหรือเทคนิคนั้น เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การกำกับตน
การกำกับตน(Self-regulation) เป็นเทคนิคการพัฒนาตนอีกวิธีหนึ่ง เป็นการกำกับพฤติกรรมของตน การกำกับตนประกอบด้วย มาตรฐานของพฤติกรรม ความรู้สึกต่อพฤติกรรม และการเปรียบเทียบระหว่างพฤติกรรม 2 อย่าง และเมื่อใดมีความรู้สึกว่าพฤติกรรมนั้นไม่เหมาะสม การปรับพฤติกรรมโดยวิธีการกำกับตนหรือวิธีอื่นก็จะเกิดขึ้น
กระบวนการกำกับตน มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 จับตาตน (Self-monitoring Stage) เป็นขั้นที่สนใจตนเองอย่างจริงจัง มีการกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อการปฏิบัติหรือกำหนดมาตรฐานขึ้น เป็นกฎเกณฑ์ หรือมาตรฐานที่บุคคลใช้ตัดสินพฤติกรรมของตน กฎเกณฑ์นี้ได้รับอิทธิพลจากค่านิยมทางสังคม และประสบการณ์ส่วนบุคคล
ขั้นที่ 2 ขั้นประเมินตน (Self-evaluation Stage) เป็นขั้นที่มีการเปรียบเทียบระหว่างสารสนเทศที่ได้จากการจับตาตน กับมาตรฐานของพฤติกรรมของบุคคล การประเมินตนที่เกิดจากการจับตาตนไม่เพียงพอหรือเป็นมาตรฐานที่เป็นไปไม่ได้จะมีผลกระทบต่อการกำกับตนคือจะเป็นการกำกับตนที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ขั้นที่ 3 ขั้นเสริมแรงตน (Self-reinforcement Stage) เป็นขั้นที่บุคคลมีปฏิกิริยาต่อสารสนเทศที่ได้มาจากกระบวนการประเมินตน เป็นขั้นที่เกี่ยวกับการจูงใจ คือ ถ้าพฤติกรรมเป้าหมายสอดคล้องกับมาตรฐานบุคคลจะพอใจ ให้เกิดแรงจูงใจให้เปลี่ยนแต่ถ้าพฤติกรรมนั้นต่ำกว่ามาตรฐาน จะทำให้บุคคลพยายามที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เพื่อให้สอดคล้องตามเกณฑ์ หรือมาตรฐาน เมื่อใดบุคคลเปลี่ยนพฤติกรรมได้สอดคล้องกับมาตรฐานจะต้องมีการเสริมแรง
กระบวนการกำกับตน จะเกิดขึ้นซ้ำๆจนกว่าจะได้มาตรฐาน เกิดเป็นทักษะ เกิดเป็นนิสัยหรือ จนกว่าจะยอมแพ้อันแสดงถึงการไม่สามารถกำกับตนได้
4. การปรับตน
การจะปรับตน(Self-modification) การปรับตนจะสามารถทำได้สำเร็จต้องอาศัยองค์ประกอบต่อไปนี้ คือ การรู้จักตน (Self-knowledge) การวางแผน (planing) การรวบรวมสารสนเทศ (information gathering) และการปรับเปลี่ยนแผนโดยอาศัยสารสนเทศใหม่ ในการปรับตนมีขั้นตอนดังนี้ คือ
การกำหนดเป้าหมาย และกำหนดพฤติกรรมที่ต้องการจะเปลี่ยนตามเป้าหมายในขั้นนี้เริ่มด้วยการสังเกตตน เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับตนในการที่จะรู้จักตนเป็นกุญแจสำคัญในการปรับตน การกระทำทุก ๆ อย่าง อันได้แก่ พฤติกรรม ความคิด ความรู้สึก ตลอดจนการแสดงออกในสถานการณ์ต่าง ๆ จะต้องได้รับการสังเกตอย่างจริงจัง และเมื่อเราสังเกตอย่างจริงจัง จะค้นพบความจริง หลังจากนั้นจึงตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
สังเกตพฤติกรรมเป้าหมาย ในขั้นนี้ผู้ที่ปรับตนจะต้องมีการบันทึก โดยบันทึกพฤติกรรมเป้าหมาย มีการแจงนับว่า มีการแสดงพฤติกรรมเป้าหมายนั้นบ่อยเพียงใด และพยายามค้นให้พบว่า อะไรที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมเหล่านั้น และผลตอบแทนที่ได้จากการกระทำพฤติกรรมเหล่านั้นคืออะไร ในการบันทึกพฤติกรรมเป้าหมายมีหลัก ดังนี้
จดบันทึกทันที เมื่อมีพฤติกรรมเกิดขึ้น อย่าทิ้งไว้นาน
นับพฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างละเอียด ถูกต้อง และเคร่งครัด
จดบันทึกให้ละเอียดชัดเจน
ทำระบบการจดบันทึกให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะง่ายได้ และพยายามทำระบบบันทึกให้เหมาะกับนิสัยของตน
การเตรียมรับสิ่งเย้ายวนที่ทำให้เกิดการหยุดการปรับตน ในขณะที่ดำเนินการตามกระบวนการปรับตน บางครั้งอาจมีสิ่งเย้ายวนเพื่อจัดการกับสภาพแวดล้อม และจัดการกับความสนใจ การจำ และการคิดของตนเอง การกำกับตนอาจได้ด้วยการ
หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่รู้ว่าเป็นสิ่งยั่วยวน
ลดคุณภาพของความยั่วยวนของสถานการณ์ให้น้อยลง
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กำลังยั่วยวนให้หันเหความสนใจไปยังสิ่งอื่น
พยายามทำพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำให้
การทำสัญญากับตน ถ้ามุ่งมั่นที่จะปรับตนอย่างจริงจัง จะต้องทำสัญญากับตน
การเสริมแรงตน เพื่อช่วยความแข็งแกร่งของพฤติกรรมที่พีงประสงค์ทุกครั้งที่กระทำพฤติกรรมดังกล่าว จะมีการเสริมแรงตนด้วยรางวัลเป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้การปรับตนประสบความล้มเหลว การปรับตนอาจจะประสบความล้มเหลวได้ด้วยสาเหตุต่อไปนี้ คือ
ล้มเหลวในการสังเกตตน
ไม่ยอมใช้เทคนิควิธี
ไม่เชื่อว่าเทคนิควิธีจะช่วยได้
ไม่เชื่อว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
ไม่ต้องการที่จะปรับตนอย่างจริงจัง
ไม่ใช้เวลาและความพยายามเต็มที่
เริ่มต้นด้วยความสำเร็จ แต่เกิดความไม่กล้าในภายหลัง
มีบุคคลอื่นทำให้เกิดความไม่กล้าที่จะใช้เทคนิค โดยบอกว่าแก้ปัญหาไม่ได้หรือไม่ฉลาดเลยที่ใช้เทคนิคนั้น เป็นต้น
จะเห็นว่าเทคนิคในการพัฒนาตน ที่กล่าวมาทั้งหมด จะมีกระบวนการที่คล้ายกัน คือในแทบทุกเทคนิค จะมีกำหนดพฤติกรรมเป้าหมาย หรือพฤติกรรมเป้า มีการวางแผน มีการประเมินตลอดจนมีการเสริมแรง ในขณะเดียวกันสามารถใช้เทคนิคหนึ่งในอีกเทคนิควิธีหนึ่งได้ เช่น เทคนิคการทำสัญญากับตน สามารถจะนำไปใช้กับทุกเทคนิค ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีประสิทธิผล

หนาวนี้ เที่ยวไหนดี

ททท.ขอเชิญคนไทย ในแคมเปญ" 12เดือน 7ดาว 9ตะวัน "

บ้านเรามีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายทั้ง ธรรมชาติ ป่า เขา ท้องทะเล วัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งมีความน่าสนใจในระดับสูงมาก หลายแห่งมีความโดดเด่นจัดอยู่ในขั้นมหัศจรรย์เมืองไทยที่ไม่ไปไม่รู้ ชนิดที่ขาเที่ยว(ไทย)ทั้งหลายต้องหาโอกาสไปให้ได้สักครั้ง(หรือหลายๆครั้ง)ในชีวิต แต่มีข้อแม้ว่าต้องไปให้ถูกที่ ถูกทาง ถูกจังหวะ ถูกเวลา ก็จะได้รับความประทับใจอิ่มเอมปรีดากลับไป ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จึงคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวอันโดดเด่นเหล่านั้นมานำเสนอนักท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ(ใหม่) “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” เพื่อเชิญชวนให้คนไทยเที่ยวไทยมากขึ้น และเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปในตัว

แล้ว “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” คืออะไร อนึ่งนิยามของคำว่า “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน”นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย “12 เดือน” คือ

ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดยอดมุมมองของการท่องเที่ยว ที่ถูกคัดสรรว่าสวยที่สุด น่าดูที่สุด ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัส โดยมีแนวคิดมาจากการได้ไปชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวในตำแหน่งและในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด โดย ททท.ได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวซึ่งจะปรากฏความงามออกมาให้ดูได้เฉพาะในแต่ละเดือนตามปีปฏิทินเดือนละ 2 แห่ง ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางได้ตลอดปีทั้ง 12 เดือน “7 ดาว” หมายถึง ความมหัศจรรย์แห่งความสวยงามที่เกิดขึ้นยามค่ำคืนที่น่าสนใจที่สุด “9 ตะวัน” คือ สุดยอดแห่งปรากฏการณ์ภาคกลางวัน ที่ความงดงามได้ปรากฏให้ได้เห็น หากพลาดในปีนี้ ก็คงต้อง ณ เวลานี้ในปีถัดไป จึงนับได้ว่าเป็นการสร้างกระแสการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพื่อให้คนไทยตื่นตัวที่จะออกมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น...

12 เดือน มกราคม : ชมซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่ จ.เชียงใหม่ อาทิ บ้านขุนช่างเคี่ยน หรือ ดอยขุนแม่ยะ ดูนกที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ กุมภาพันธ์ : ชมดอกชมพูภูคาแห่งเดียวในโลกบานที่ ดอยภูคา จ.น่าน ชมดอกทองกวาวบานนับพันต้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา มีนาคม : ชมแหล่งปะการังน้ำตื้นสวยที่สุดในเมืองไทย สัมผัสปลาการ์ตูนอย่างใกล้ชิด และสีสันโลกแห่งท้องทะเลอันงดงามที่ หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา สัมผัสความมหัศจรรย์ของป่าเกาะและสระน้ำในทะเลที่เกาะห้อง ทะเลกระบี่ จ.กระบี่ เมษายน : ชมแก่งสามพันโบก มหัศจรรย์ภูผาใต้มหานทีแห่งลำน้ำโขง จ.อุบลราชธานี ตระการตากับผีเสื้อจำนวนมากในผืนป่าแก่งกระจาน ป่าใหญ่ใกล้กรุง จ.เพชรบุรี พฤษภาคม : สัมผัสเสน่ห์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ชมฝูงกระทิงกลางป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ณ คลองปลากั้ง เขาใหญ่ มิถุนายน : ชมผืนพรมแห่งทะเลหญ้าเขียวขจีที่ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก ชมเปราะภูในสายหมอกที่แปกดำ ภูหลวง จ.เลย กรกฎาคม : สัมผัสความงามทุ่งดอกกระเจียวบานในม่านฝนที่ จ.ชัยภูมิ เที่ยวภูหินร่องกล้า มหัศจรรย์ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง จ.พิษณุโลก สิงหาคม : ปีนภูสอยดาวดูทะเลดอกไม้ในป่าสน จ.อุตรดิตถ์ ชมทุ่งหญ้าข้าวก่ำ ผาเดียวดาย มรดกโลกใกล้กรุงที่ป่าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา กันยายน : ท่องป่าดึกดำบรรพ์บนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เฝ้าชมฝูงเหยี่ยวอพยพหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่ จ.ชุมพร ตุลาคม : ท่องทุ่งดอกไม้ป่าบานบนพลาญหิน ที่อุทยานฯผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ล่องแก่งผจญภัยในลำน้ำว้า ที่สุดแห่งการล่องแก่งเมืองไทย พฤศจิกายน : ละลานตาไปกับทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน ล่องสายน้ำชมทุ่งพลับพลึงธารหนึ่งเดียวในไทย จ.ระนอง ธันวาคม : สัมผัสเสน่ห์ภูกระดึง จ.เลย ล่องแก่งถ้ำเจ็ดคต เที่ยวเกาะตะรุเตาอันงดงาม จ.สตูล ...

7 ดาว - งานจองพารา เทศกาลปอยเหลิน 11 วันออกพรรษา จ.แม่ฮ่องสอน - นอนนับดาวที่มอหินขาว สโตเฮนจ์เมืองไทย จ.ชัยภูมิ - เที่ยวพิพิธภัณฑ์มังกร จ.สุพรรณบุรี - ชมพระจันทร์ขึ้นกลางอ่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ - เที่ยวเทศกาลไหลเรือไฟ จ.นครพนม - เที่ยวเทศกาลแห่ดาว คริสมาสต์ จ.สกลนคร - ท่องราตรีกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา ...

9 ตะวัน - เวียนเทียนกลางน้ำกว๊านพะเยา จ.พะเยา - มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกมีลอจ่อ ทีลอซู และทีลอเร จ.ตาก - ตระการตาปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ - รับตะวันก่อนใครในสยามริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำสี จ.อุบลราชธานี - เพลิดเพลินไปกับความมหัศจรรย์ของถ้ำมรกต จ.ตรัง - เที่ยวแหลมพรหมเทพ หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองไทย - ชมพระอาทิตย์ตกจากในถ้ำหนึ่งเดียวในไทยที่ถ้ำพระนาง จ.กระบี่ - ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลม ดอยแม่ระเมิง จ.ตาก - ชมแสงส่องลอดช่องกระทบพลับพลา ที่ถ้ำพระยานคร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนั่นก็เป็น แหล่งท่องเที่ยว เทศกาลงานประเพณี ต่างๆใน “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” ที่ใครอยากไปสัมผัสก็หาวันเวลาที่เหมาะสมเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ แล้วก็จะพบว่าเสน่ห์เมืองไทยนั้น ต้องไปถึงจะรู้

-----------------------------------------

ททท. จัดพิมพ์หนังสือคู่มือออกมาจำนวน 180,000 เล่ม ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับฟรีได้ที่สำนักงาน ททท. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 52 เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center 1672

ขอขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://thai.tourismthailand.org/news/content-2084.html





หน่วยจารพันธุ์พิทักษ์โลก (Walt Disney Studios Motion Pictures)










เรื่องย่อ G-Force G-Force การผจญภัยสุดขบขันเกี่ยวกับวิวัฒนาการใหม่แกะกล่องในโครงการลับของรัฐบาลที่จะฝึกฝนสัตว์ให้ทำหน้าที่สายลับ และหนูตะเภาที่มีอาวุธสายลับสุดไฮเทคครบมือและผ่านการฝึกฝนอย่างดี ก็ได้ค้นพบว่าชะตากรรมของโลกใบนี้อยู่บนอุ้งเท้าของพวกมันนี่เอง ผู้ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมกลุ่ม G-Force คือหนูตะเภาดาร์วิน (พากย์เสียงโดยแซม ร็อคเวล) หัวหน้าทีมที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น, บลาสเตอร์ (พากย์เสียงโดยเทรซีย์ มอร์แกน) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธตัวแสบที่รักทุกอย่างที่มันสุดขอบ และฮัวเรซ (พากย์เสียงโดยเพเนโลเป้ ครูซ) หนูสาวนักสู้สุดเซ็กซี พ่วงมาด้วยมูช แมลงวันนักสอดแนมและสเป็คเคิลส์ (พากย์เสียงโดย นิโคลัส เคจ) ตัวตุ่นจมูกดาว ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์และข้อมูลข่าวสาร ระหว่างการผจญภัยสุดหฤหรรษ์ สมาชิกทีม G-Force ได้เจอกับเพื่อนพ้องสัตว์มากหน้าหลายตา ซึ่งรวมถึงเฮอร์ลีย์ (พากย์เสียงโดยจอน แฟฟโร) ปู่โสมเฝ้าร้านสัตว์เลี้ยงและบัคกี้ (พากย์เสียงโดยสตีฟ บุสเชมี) แฮมสเตอร์หวงถิ่น G-Force ที่กำกับโดย ฮอยท์ เอช. ยีทแมน จูเนียร์ ปรมาจารย์ด้านวิชวล เอฟเฟ็กต์เจ้าของรางวัล อคาเดมี อวอร์ดนี้จะนำผู้ชมร่วมสนุกไปกับการผจญภัยอ็อกเทนสูง และพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่าโลกยังต้องการฮีโรตัวใหญ่กว่านี้ "มันสนุกดีนะครับที่ได้นำหนังที่มีธีมที่เราคุ้นเคยกันดีหรือกระทั่งธีมคลาสสิกมาดัดแปลงเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง" บรั๊คไฮเมอร์บอก "เรามีหนังสายลับมานานแล้วก่อนหน้าเจมส์ บอนด์เสียอีก และหนังที่มีสัตว์พูดได้และมีลักษณะนิสัยของตัวเองก็มีมาได้ซักพักแล้วเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยเห็นคือหนังเกี่ยวกับสายลับที่ดันเป็นสัตว์ แล้วยิ่งมันมาผสมผสานกับไลฟ์แอ็กชัน และดิจิตอล 3D เข้าไปอีกด้วยน่ะครับ" ภาพยนตร์ที่ผสมผสานไลฟ์แอ็กชันเข้ากับ CG เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดยนักแสดงที่เป็นคนจริง ๆ ซึ่งรวมถึงดาราเจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำ บิล ไนฮีย์ ในบทเลียวนาร์ด เซเบอร์ นักอุตสาหกรรมผู้ชั่วร้าย, วิลล์ อาร์เน็ตต์ในบทเจ้าหน้าที่พิเศษ คิป คิลเลียน ผู้อยากจะปิดหน่วย G-Force, แซ็ค กาลิเฟียนาคิส ในบทผู้สร้างและผู้เป็นเหมือนพ่อของหน่วย G-Force, รวมถึง เคลลี การ์เนอร์ ในบทสัตวแพทย์ประจำทีม G-Force ควบคุมงานสร้างโดยไมค์ สเตนสัน, แชด โอมาน, ดันแคน เฮนเดอร์สันและเดวิด พี.ไอ. เจมส์ บทภาพยนตร์โดยคู่สามีภรรยาวิบเบอร์ลีย์ (National Treasure: Book of Secrets) จากเรื่องราวโดยฮอยท์ เอช. ยีทแมน จูเนียร์และเดวิด พี.ไอ. เจมส์ ผู้ช่วยอำนวยการสร้างได้แก่แพท แซนด์สตัน, เท็ด เอลเลียต, เทอร์รี่ รอสซิโอและเรียวตะ คาชิบะ ทีมงานเบื้องหลังได้แก่ผู้กำกับภาพโบจัน บาเซลลี (Hairspray, The Sorcerer's Apprentice), ผู้ออกแบบงานสร้างเด็บราห์ อีวานส์ (Hostage, Remember the Titans), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอลเลน มิโรจนิค (Deja Vu, Fatal Attraction, Wall Street), คอมโพสเซอร์เทรเวอร์ ราบิน (Armageddon และ National Treasure ทั้งสองภาค, ซูเปอร์ไวเซอร์เจ้าของสองรางวัลอคาเดมี อวอร์ด สก็อต สต็อคดิค (Spider-Man, Spider-Man 2) และผู้ประสานงานฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ สแตน ปาร์คส์ (ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดจาก Hollow Man, Deja Vu) G - Force




G -Force

มาดูหลินปิงกัน


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สวนสัตว์เชียงใหม่ดัน “หลินปิง” เป็นพรีเซนเตอร์โปรโมตท่องเที่ยวงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ เตรียมจับนั่งกระทงระหว่างตรวจสุขภาพวันอายุครบ 5 เดือนเต็ม พร้อมปล่อยโคมลอยนำโชคชมสวนสัตว์และแพนด้าฟรี ขณะที่ช่วงงานลอยกระทง 1-3 พ.ย.52 จะมีการนำแพนด้าน้อยออกมาโชว์ตัวในส่วนจัดแสดงวันละ 2 รอบวันนี้ (15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่โครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ทำการตรวจสุขภาพ “หลินปิง” ลูกแพนด้า โดยภาพร่วมพบว่ามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีและมีพัฒนาการด้านต่างๆ ต่อเนื่องตามลำดับ ชั่งน้ำหนักตัวได้ 11,000 กรัม หรือ 11 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากการตรวจสุขภาพครั้งก่อน 400 กรัมนอกจากนี้ ในการตรวจสุขภาพครั้งนี้ยังได้มีการประทับรอยเท้าของ “หลินปิง” ลงบนวัสดุคล้ายดินน้ำมัน เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และบันทึกการเจริญเติบโตด้วย ซึ่งสามารถทำได้เพียงเท้าเดียว เนื่องจาก “หลินปิง” ไม่หยุดนิ่งนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “หลินปิง” มีสุขภาพและพัฒนาการที่ดีมาก โดยน้ำหนักตัวเพิ่มเฉลี่ยวันละประมาณ 130 กรัม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจีนระบุว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าลูกแพนด้าทั่วไปสำหรับการฝึกพัฒนาการนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ได้มีการทดลองฝึกการกัดแทะของ “หลินปิง” ด้วยการให้ใบไผ่ แครอท และหน่อไม้ ปนไปกับของเล่นอื่นๆ เพื่อให้ “หลินปิง” ขบกัด เป็นการเตรียมความพร้มเบื้องต้น ก่อนที่จะกินเป็นอาหารได้ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่า “หลินปิง” จะไม่ยอมกินหน่อไม้เหมือน “ช่วงช่วง” กับ “หลินฮุ่ย” ทั้งๆ ที่เป็นอาหารที่หมีแพนด้าในประเทศจีนชอบกินและมีสารอาหารมาก ซึ่งจะต้องพยายามฝึกฝนกันให้ได้ขณะเดียวกัน นายประเสริฐศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการตรวจสุขภาพ “หลินปิง” ในวันที่ 27 ต.ค.2552 นี้ ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 5 เดือนของลูกแพนด้าตัวนี้ จะมีการจัดตกแต่งคลินิกแพนด้าที่ใช้สำหรับการตรวจสุขภาพให้มีบรรยากาศเหมือน การจัดงานประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงพร้อมทั้งจัดทำกระทงขนาดพอเหมาะให้ “หลินปิง” เข้าไปนั่งและเล่นระหว่างการตรวจสุขภาพ โดยที่กระทงดังกล่าวจะมีการติดข้อความเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวงาน ประเพณียี่เป็งที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการฉลองอายุครบ 5 เดือนของ “หลินปิง” ยังจะมีการปล่อยโคมลอยที่ติดตุ๊กตาแพนด้าตัวน้อยๆ เอาไว้ จำนวน 5 โคม ซึ่งผู้ที่เก็บโคมลอยและตุ๊กตาดังกล่าวได้ จะได้รับรางวัลเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่และแพนด้าในช่วงยี่เป็งใน ช่วงการจัดงานประเพณียี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย.2552 นั้น หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย จะมีการนำ “หลินปิง” ออกไปโชว์ตัวในส่วนจัดแสดงแพนด้าด้วย โดยจะมีการจัดตกแต่งส่วนจัดแสดงแพนด้าในส่วนที่ “หลินปิง” จะออกไปโชว์ตัวด้วยกระทงให้บรรยากาศเหมือนการจัดงานประเพณียี่เป็งเช่นกัน ซึ่งจะมีการนำ “หลินปิง” ออกมาโชว์ตัววันละ 2 ครั้ง เช้าและบ่าย รวมทั้งมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชม ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้นักท่อง เที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวงานประเพณียี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ มีทางเลือกในการท่องเที่ยวมากขึ้นและเข้ากับบรรยากาศการจัดงานในช่วงนั้น ด้วยส่วนกรณีที่มีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่ากำลังจะประสานกับทางโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้า เพื่อนำ “หลินปิง” ไปโชว์ตัวในสวนทิวลิปที่จัดตกแต่งขึ้น เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่รับการติดต่อประสานงานในเรื่องดังกล่าว และในทางปฏิบัติคงไม่สามารถที่จะนำตัว “หลินปิง” ออกไปได้ ด้วยข้อจำกัดหลายประการ รวมทั้งตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ทำไว้กับทางประเทศจีนที่เป็นเจ้าของแพนด้า ก็คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อยู่แล้ว

สาวก bodyslam

เพลงที่ทำให้เรารู้จัก bodyslam

คุณสมบัติ 50 ข้อ ของละครไทย
1. ถ้าคุณเป็นคนจน แม้ไม่เคยมีงานทำก็มีเงินกินข้าว และ เปลี่ยนเสื้อผ้าตลอดเรื่อง

2. โฆษณามักจะตัดกับตอนที่นางเอกกำลังถือแก้วกำลังจะจิบยานอนหลับ

3. ตัวละครแต่งหน้าตลอดเวลา แม้กระทั่ง นอนหรือป่วย ขนตาและมาสคาร่ามันโปะเต็มหน้า

4. ไม่พระเอกก็นางเอกจะมีปัญหาครอบครัว

5. พระเอกนางเอกละครไทยจะเริ่มปิ๊งกัน เพียงแค่ล้มทับกัน แต่จ้องตาเป็นประกายประมาน 3วิ ซะทุกเรื่อง นางเอกต้องอยู่ด้านบนด้วยนะ

6. เมื่อหลงป่า ฝนจะตก และเมื่อฝนตก จะเจอกระท่อมหรือถ้ำ และเมื่อเจอกระท่อมหรือถ้ำก็ยั่งว่า...

7. หากพระเอกโดนรุมทำร้าย ท่อนไม้เป็นอาวุธที่นางเอกจะหาได้ทุกที

8. นางร้ายที่มาในชุดแดง จะมีความร้ายระดับนางมาร

9. ตื่นมาละแปรงฟันกันน้อยมาก

10. เรื่องสำคัญอะไรก็ตามที่จะบอกกัน มักโดนตัดบทเสมอ

11. แม้ว่าพระเอกจะจบสูงมาแค่ไหนสุดท้ายก็โง่ได้อย่างมหัศจรรย์ด้วยคำพูดตัวร้าย เรียกได้ว่า พระเอกจะเชื่อทุกเรื่อง นอกจากเรื่องจริง

12. บุหรี่ เหล้า และ ยี่ห้อสินค้าโดนเซ็นเซอร์อย่างไร้สาระ แต่ตอนตบตีกัน ภาพใสแจ๋ว

13. พระเอกแขนเท่ากุ้งสามารถล้มนักเพาะกาย 4-5 คนได้มือเปล่า โดยท่าแรกมักจะเป็นเข้ามาชก และพระเอกปัดมือกัน และ โดนเตะออกไป

14. ร้องไห้หน้ายังสวย

15. เป็นธรรมดาที่จะเห็นตัวละครพูดกับตัวเอง เหมือนคนบ้า ( คิดในใจไม่เป็น )

16. ตัวร้ายมีจุดจบ 3 ประการ ตาย เป็นบ้า และ กลับมาดี ตัวร้ายไม่เคยได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำ

17. เมื่อนางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชาย พระเอกจะดูออกคนสุดท้าย แม้ว่าคนทั้งโลกจะดูออกตั้งแต่วินาทีเเรก

18. บ้านนกอินทรีย์เป็นสถานที่ยอดนิยมในการถ่ายละคร

19. ยิงปืนไม่เคยโดนกัน ถ้าจะโดนก็โดนหัว ไม่ก็ แขน

20. และตอนตาย หน้าตาจะยังสดสวย แม้ว่าตัวละครนั้นจะยิงสมองตัวเองตาย เลือดยังไม่เปื้อนหน้า แต่จะย้อยลงมาอย่างสวยงาม และนอนในท่าที่สวยหรู

21. นักธุรกิจ มีการประชุมน้อยมาก

22. เลขาหน้าห้องมักสวย และ เป็นสายให้กับนางร้าย

23. ไม่เคยเรียกเก็บเงินหลังจากกินข้าว

24. ท่าเต้นในผับ มีท่าเดียว

25. การตบหน้าด้วยส้นสูงเป็นที่ฮือฮามากในช่วงหนึ่ง ทำให้การตบด้วยมือดูโลโซไปในขณะหนึ่ง

26. เวลาซ่อนตัวจากผู้ร้าย ต้องมีหนึ่งคนเหยียบกิ่งไม้

27. ถุงชอปปิ้ง หรือกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ขนาดไหน จะเบาโหวง เพราะข้างในไม่มีอะไรเลย

28. ตร. หมอ มีอย่างละคน คดีไหน โรค ก็ เจออยู่คนเดียว และ ตำรวจมักจะมาตอนจบ

29. แอบฟังคนพูดกันในห้อง ถึงห้องจะปิดอยู่ก็ได้ยิน

30. พระเอกจะเห็นเสมอเวลา นางเอกจับมือกับผู้ชาย แบบพี่น้องหรือเพื่อน แล้วก็เข้าใจผิด

31. พระเอกต้องมีเลือดกรุปเดียวกับนางเอกหรือ ญาตินางเอก แต่ห้ามบอกเชียวนะ ว่าตัวเองเป็นคนให้เลือด หนังจะจบเร็ว

32. ตอนจบพระเอก นางเอกยืนจับมือ มองหน้าักัน จูบหน้าผาก พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง เพื่อน คนใช้.. ยืนแอบดู แล้ว ตบมือ !!!แปะๆๆ

33. คนใช้ หรือลูกจ้างเป็นตัวเดินเรื่อง ประสานช่องโหว่งที่คนดูจะไม่เข้าใจ34. ตัวละครยังไม่ทันได้พูดความจริงจนหมด ก็ตายไปซะก่อน

35. ช่วงหลัง นางเอกกับนางร้ายจะมีนิสัยใกล้เคียงกัน

36. พระเอกจะหมั้นกับนางร้ายมาเป็นปีๆ แต่ถ้านางเอกโผล่ปุ๊บ นางร้าย มีข้อเสียปั๊บ

37. พ่อพระเอกหรือนางเอก ต้องมีเมียน้อย

38. ต้องมีคนใช้ 2 ฝ่าย ธรรมะ และอธรรม ตีกันเอง

39. ตอนจบอาจจะมีคนใดคนหนึ่งเป็นบ้า ชีจะนั่งบนเตียงผู้ป่วยพร้อมกับตุ๊กตาหนึ่งตัว

40. ตัวประกันถูกจับที่เดียวคือโกดัง และ พระเอกจะมาทันตลอดราวกับว่ามีโกดังที่เดียวในประเทศไทย

41. กระโดดบังกระสุนแทนถือเป็นสุภาพบุรุษที่สุดละ

42. เวลามีคนโทรเข้ามือถือ กล้องต้องซูมเข้าไปให้เห็นชื่อแล้วถึงจะรับโทรศัพท์ได้ เดี๋ยวคนดูไม่รู้ว่าใครโทรมา

43. ฉากงานหมั้นหรือแต่งงาน จะมีคนมาขัดจังหวะ แฉและเปิดโปงความจริง

44. ฉากเลิฟซีนมักจะอยู่ในห้องที่มีเตียงและผ้าหุ่มสีขาว

45. จูบเเล้วต้องตบ ตบแล้วต้องด่า ด่าแล้วต้องวิ่งหนีไป

46. ถ้าเป็นฝาแฝด นางเอกมักจะถูกแยกกันแต่เกิด คนนึงไปอยู่กับมหาเศรษฐี อีกคนอยู่สลัมส์ตกยาก แล้วก็ต้องสลับตัวกัน

47. เวลามีฉากข่มขืน ผญ.จะวิ่งไปล้มบนที่นอน เหมือนจะพร้อมให้ย่ำยีแล้ว

48. พ่อไปดูลูกนอน หรือ พระเอกไปดูนางเอกนอน จะห่มผ้าให้ ถึงห้องนอนจะไม่มีแอร์ หรือไม่ใช่หน้าหนาว49. ไม่ว่าตัวละครใดๆ ที่เป็นผู้หญิง จะต้องแต่งตัวเวอร์มากๆ ไม่มีคำว่าชุดอยู่บ้าน เครื่องแต่งกายจะต้องเลิศหรูเกินมนุษย์ปกติ

50.ช่อง 3 ตอนจบ ช่อง 7 ตอนอวสาน


You-never-walk-alone

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูลครองแชมป์ดิวิชั่น 1 ถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ก่อตั้งใน วันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14 มีฉายาในภาษาไทยว่า "หงส์แดง" พร้อมด้วยคำขวัญ You will never walk alone